fbpx
วัดเนื่องเขต (วัดต้นตาล)

วัดนครเนื่องเขต

วัดนครเนื่องเขต (วัดต้นตาล) ฉะเชิงเทรา  วัดนครเนื่องเขต หรือวัดต้นตาล ตั้งอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2430 โดยพระภิษุรูปหนึ่ง ชื่อหลวงตาบัว ซึ่งได้ธุดงค์มาจากทางภาคเหนือ และได้มาปักกลดบริเวณ ต.วังตะเคียน อ.เมือง ฉะเชิงเทรา ซึ่งปัจจุบันก็คือบริเวณที่สร้างวัดนครเนื่องเขตนั่นเอง

Read More
วัดสมาน

วัดสมานรัตนาราม ฉะเชิงเทรา

วัดสมานรัตนาราม พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุข ฉะเชิงเทรา วัดพระพิฆเนศ ฉะเชิงเทรา หรือที่หลายคนรู้จักดีในชื่อของ วัดสมานรัตนาราม  เพราะพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขนี้เอง ที่ทำให้วัดสมานรัตนารามแห่งนี้มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไปอย่างกว้างขวาง ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีผู้ใดมาขอพรก็มักจะสำเร็จสมดังใจหวัง จนทำให้เป็นที่นับถือของคนทั่วไปอย่างรวดเร็ว พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์นี้ มีเนื้อองค์เป็นสีชมพูและอาจเรียกได้ว่า เป็นพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย . ปางนอนเสวยสุขนั้นมีความหมายว่า เป็นปางที่ประทานความมีกินมีใช้ เงินทองไม่ขาดมือ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ ขจัดปัญหา ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ เนื้อองค์มีสีชมพู รอบฐานมีปางต่างๆถึง 32 ปางให้ชม . ภายใต้ฐานพระพิฆเนศเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเกี่ยวกับพระพิฆเนศปางต่างๆ พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเช่าพระพิฆเนศไปบูชาที่บ้าน ทางวัดได้เปิดให้ประชาชนสักการะกราบไหว้องค์พระพิฆเนศ โดยจัดพื้นที่ให้เป็นศาลาริมแม่น้ำ ภายในศาลาเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศจำลองปางต่างๆ อีกทั้งมีพระพุทธรูป ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะขอพร . . ถ้านักท่องเที่ยวสังเกตด้านหน้าฐานพระพิฆเนศ จะเห็นปูนปั้นรูปหนูอยู่สองตัว ที่ยืนทำมือป้องหูไว้ ตามประวัติเล่าว่า พระพิฆเนศมีหนูเป็นบริวาร และในความเชื่อของผู้ที่เคารพและสักการะขอพรเป็นประจำ เชื่อว่าถ้าอยากได้สิ่งใด ขอพรสิ่งใดให้สมหวัง ให้ไปกระซิบที่หูหนู แล้วเจ้าหนูบริวารนี้จะนำความไปบอกท่านพระพิฆเนศ ให้ประทานสิ่งที่ต้องการกลับมา และที่สำคัญอย่าลืมติดสินบนหนูด้วย โดยการทำบุญใส่ตู้ที่วางไว้ด้านหน้า พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุข วัดสมานรัตนารามแห่งนี้ นอกจากจะมีพระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุขสีชมพู…

Read More
วัดหลวงพ่อโต

หลวงพ่อโต ซำปอกง

หลวงพ่อโต ซำปอกง ณ วัดอุภัยภาติการาม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา  ตามประวัติเล่าว่า เมื่ออดีตตั้งแต่สมัยรัชกาลที่5 ในชุมชนชาวตลาดบ้านใหม่ล่าง มีเศรษฐีชาวจีน 2 พ่อลูก คือ หลงจู๊ฮี้ (พ่อ) และ หลงจู๊แดง (ลูก) ได้ไปศักการะหลวงพ่อโต ที่วัดพนัญเชิง อยุธยา และเกิดความศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก ซึ่งในสมัยนั้น ชาวจีนในเมืองไทยนิยมไปกราบไหว้ หลวงพ่อโต หรือ ซำปอกง ที่วัดพนัญเชิง อยุธยา เพราะมีความเชื่อว่าสามารถนำโชคดีเกี่ยวกับเรื่องการค้าขาย จะทำให้ประสบความสำเร็จ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า ในปี พ.ศ. 2449 จึงทำให้ หลงจู๊ฮี้ และ หลงจู๊แดง (ต่อมาได้รับบรรดาศักดิ์เป็น ขุนพิพิธพานิชกรรม)ได้สละทรัพย์ส่วนตัวสร้าง หลวงพ่อโต หรือ พระซำปอกง ไว้ที่เมืองแปดริ้ว โดยหลงจู๊แดง หรือขุนพิพิธพานิชกรรม ได้สละที่ดินส่วนตัว บริเวณ ต.บ้านใหม่ อ.เมือง ฉะเชิงเทรา เพื่อสร้างวิหาร และให้ช่างไปจำลององค์หลวงพ่อโต มาจากวัดพนัญเชิง…

Read More
วัดโสธร

วัดหลวงพ่อโสธร ฉะเชิงเทรา

วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทราประวัติและความเป็นมาของ วัดหลวงพ่อโสธร  วัดหลวงพ่อโสธร หรือชื่อทางการ วัดโสธรวรารามวรวิหาร เดิมมีชื่อว่า “วัดหงส์” มีหลักฐาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย โดยมีประวัติที่เล่าสืบทอดกันมายาวนาน และเมื่อเวลาผ่านไป แม่น้ำบางปะกงไหลกัดเซาะตลิ่งพังลงมา วัดหงส์จึงหมดไป จึงมีการสร้างวัดขึ้นใหม่  วัดโสธรวรารามวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองฉะเชิงเทรา เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวแปดริ้ว และคนต่างบ้านต่างเมืองมาแต่อดีตกาล ตั้งอยู่บนถนนสายมรุพงษ์ ห่างจากตลาดกลางเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร วัดนี้แต่เดิมเป็นวัดราษฎร์ สร้างขึ้นตอนปลายของกรุงศรีอยุธยา ตามประวัตินั้นแต่แรกมีชื่อว่า “วัดหงส์” เพราะมี “เสาหงส์” อยู่ในวัด เป็นเสาสูงมียอดเป็นตัวหงส์อยู่บนปลายเสา ต่อมาหงส์บนยอดเสาหักตกลงมาเหลือแต่เสา และมีผู้เอาธงขึ้นไปแขวนแทน จึงได้ชื่อว่า “วัดเสาธง” ครั้นเมื่อเสาธงหักเป็นสองท่อน จึงเรียกชื่อใหม่ว่า “วัดเสาธงทอน” ส่วนชื่อ “วัดโสธร” อันมีความหมายว่า “บริสุทธิ์” และ “ศักดิ์สิทธิ์” นั้น เรียกตามพระนามของ พระพุทธโสธร หรือหลวงพ่อโสธร ซึ่งได้มาประดิษฐานในวัดนี้.ในภายหลังวัดโสธรได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร มีนามว่า “วัดโสธรวรารามวรวิหาร” เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2501 ความจริงวัดโสธรแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปีใด ก็ไม่มีหลักฐานที่แน่นอน…

Read More